วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ต้นดอกแก้ว

ดอกแก้ว
ชื่ออื่นๆ : แก้วขาว  แก้วขี้ไก่  แก้วพริก  ตะไหลแก้ว  จ๊าพริก
ชื่อสามัญ : Adaman satinwood, Chinese box tree, Orange jasmine, Cosmetic bark tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Murraya paniculata (L.) Jack.
วงศ์ : Rutaceae
ถิ่นกำเนิด : จีน และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลักษณะทั่วไป : ไม้พุ่มขนาดเล็ก มีการแตกกิ่งก้านสาขามาก หากไม่มีการตัดแต่งทรงพุ่มจะมีทรงพุ่มค่อนข้างกลม
ฤดูการออกดอก : ออกดอกตลอดปี (สามารถควบคุมการออกดอกได้โดยการควบคุมน้ำและใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม)
เวลาที่ดอกหอม : ดอกหอมตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
การขยายพันธุ์ :
การตอน เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นพันธุ์ไม้หอมที่ออกรากได้ง่ายใช้เวลาในการตอนประมาณ 21 - 35 วันแล้วแต่ฤดูกาล
การเพาะเมล็ด ยังไม่มีการเก็บข้อมูล แต่พบต้นขนาดเล็กตามพื้นดินบริเวณต้นแก้วที่ติดผล แสดงว่าสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด
ข้อดีของพันธุ์ไม้ :
เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ส่งกลิ่นหอมแรงสุดชนิดหนึ่ง
สามารถปลูกในดินที่มีคุณสมบัติไม่ค่อยเหมาะกับการปลูกพืชทั่วไป เช่น ดินเค็ม มีธาตุอาหารในดินน้อย
สามารถควบคุมการออดอกในช่วงเวลาที่เราต้องการได้ โดยการควบคุมน้ำและปุ๋ยที่ถูกต้อง
ข้อแนะนำ :
แก้วเป็นพันธุ์ไม้หอมที่ต้องการน้ำจำนวนมากในเจริญเติบโต หากขาดน้ำจะแสดงอาการใบเหี่ยวให้เห็นทันที
การปล่อยให้แก้วมีการเจริญเติบโตตามธรรมชาติโดยไม่มีการตัดแต่งทรงพุ่ม จะทำให้การออกดอกน้อยลง
ข้อมูลอื่นๆ :
ใบสดที่โตเต็มที่ มีรสปร่า หอม

ขนาดและวิธีใช้ : ใช้ใบสด 15 ใบย่อย หรือน้ำหนัก 1 กรัม ตำพอแหลก ใส่ในเหล้าโรงประมาณ 2 ช้อนชา หรือ 8 มิลลิลิตร ทิ้งไว้ 3 - 5 นาที นำน้ำยาทาบริเวณที่ฟันปวด
สรรพคุณ : บรรเทาอาการปวดฟัน การที่ใบแก้วสด สามารถบรรเทาอาการปวดฟันได้ เนื่องจากมีน้ำมันหอมระเหยที่ออกฤทธิ์เป็นยาชา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น