|
เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ต้องการพื้นที่ในการปลูกมาก ประมาณ 16 ตรม.
และต้องการแดดจัด การปลูกในที่ร่มจะมีผลต่อการติดดอกออกผล
ที่สวนไม้หอมของฝ่ายปฏิบัติการวิจัยฯ ต้นที่มีร่มเงาของไม้หอมชนิดอื่นๆ
มีใบและลำต้นสวยงามกว่าต้นที่อยู่กลางแจ้ง แต่ไม่พบการติดดอกออกผล |
|
กระดังงาไทยที่ได้จากการเพาะเมล็ดเมื่อปลูกจะเจริญเติบโตเร็วมาก
ที่สวนไม้หอมของฝ่ายปฏิบัติการวิจัยฯ เมื่อปลูกได้ประมาณ 3 ปี สูง 7 - 8 ม.
จึงจะออกดอก |
|
เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้หอมที่ส่งกลิ่นหอมแรง
การปลูกพันธุ์ไม้ชนิดนี้บริเวณต้นทางที่ลมพัดผ่าน
จะทำให้ผู้ปลูกได้สัมผัสกับกลิ่นของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ได้โดยตรง |
|
ตำรายาไทยใช้ใบและเนื้อไม้ต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ ดอกปรุงเป็นยาหอม
แก้ลมวิงเวียน จัดอยู่ในเกสรทั้งเจ็ด
คนโบราณใช้ดอกทอดกับน้ำมันมะพร้าวทำน้ำมันใส่ผม
มีการศึกษาพบว่าน้ำมันหอมระเหยดอกมีฤทธิ์ไล่แมลงบางชนิด Traditional Use
Leaf and wood: diuretic |
|
สารสำคัญ : น้ำมันหอมที่สกัดได้จากดอกเรียกว่า
Cananga oil หรือ Ylang-ylang oil ประกอบด้วย Caryophyllene, Benzyl
acetate, Benzyl alcohol, Farnesol, Terpineol, Borneol, Geranyl acetate,
Safrol, Linalol, Limonene, Methyl salicylate เป็นต้น |
|
สรรพคุณ : น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากดอก ใช้ในทางยา
เป็น Aromatherapy สำหรับเป็นยาฆ่าเชื้อโรค แก้อาการซึมเศร้า
แก้อาการกระวนกระวาย ช่วยสงบประสาท บำรุงประสาท ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต
ขับลม แก้หืดหอบ และยังใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง ทำเครื่องหอมต่างๆ
กระดังงาสกัดด้วยเอทานอลมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของ Staphylococcus epidermidis |
|
สรรพคุณของกระดังงาไทยแบ่งตามส่วนต่างๆ มีดังนี้ เปลือกต้น รสฝาดเฝื่อน ใช้ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ แก้ท้องเสีย เนื้อไม้ รสขมเฝื่อน ใช้ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ ดอก รสหอมสุขุม บำรุงโลหิต บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ น้ำมันหอม ใช้ปรุงน้ำหอม ปรุงขนมและอาหาร |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น